การสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
การสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
ความท้าทายของเหล็ก:
ในขณะที่อุตสาหกรรมเหล็กเป็นสิ่งสำคัญต่อวิถีชีวิตในยุคปัจจุบัน แต่ก็เป็นสาเหตุของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในปริมาณมหาศาล
ในขณะที่อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าเป็นสิ่งสำคัญต่อวิถีชีวิตในยุคปัจจุบัน แต่ก็เป็นสาเหตุของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในปริมาณมหาศาล
ในขณะที่อุตสาหกรรมเหล็กเป็นสิ่งสำคัญต่อวิถีชีวิตในยุคปัจจุบัน แต่ก็เป็นสาเหตุของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในปริมาณมหาศาล
เหล็กมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึง การก่อสร้างอาคาร การผลิตรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และแม้แต่เครื่องครัว หากไม่มีเหล็ก โลกของเราคงไม่แข็งแกร่งดังเช่นวันนี้ ไม่มีตึกสูงเสียดฟ้า ไม่มีสะพานเชื่อมเมือง ไม่มียานพาหนะพาเราไปสู่จุดหมาย และแม้แต่สิ่งของรอบตัวที่เราพึ่งพาในทุกๆ วันก็คงไม่มีอยู่ เหล็กจึงไม่ใช่เพียงแค่วัสดุ แต่คือรากฐานของความก้าวหน้าและชีวิตของเรา
น่าเสียดายที่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเหล็กเป็นปัญหาใหญ่พอ ๆ กับบทบาทของเหล็ก และเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน กว่า 10% ของการปล่อยก๊าซ CO2 ทั่วโลก หรือมากกว่า 2,500,000,000 ตันต่อปี มาจากการผลิตเหล็ก ซึ่งมากกว่าการปล่อยก๊าซ CO2 จากการบินและการเดินทางทางอากาศทั้งหมดถึงสามเท่า
เหล็กมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึง การก่อสร้างอาคาร การผลิตรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และแม้แต่เครื่องครัว หากไม่มีเหล็ก โลกของเราคงไม่แข็งแกร่งดังเช่นวันนี้ ไม่มีตึกสูงเสียดฟ้า ไม่มีสะพานเชื่อมเมือง ไม่มียานพาหนะพาเราไปสู่จุดหมาย และแม้แต่สิ่งของรอบตัวที่เราพึ่งพาในทุกๆ วันก็คงไม่มีอยู่ เหล็กจึงไม่ใช่เพียงแค่วัสดุ แต่คือรากฐานของความก้าวหน้าและชีวิตของเรา
น่าเสียดายที่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเหล็กเป็นปัญหาใหญ่พอ ๆ กับบทบาทของเหล็ก และเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน กว่า 10% ของการปล่อยก๊าซ CO2 ทั่วโลก หรือมากกว่า 2,500,000,000 ตันต่อปี มาจากการผลิตเหล็ก ซึ่งมากกว่าการปล่อยก๊าซ CO2 จากการบินและการเดินทางทางอากาศทั้งหมดถึงสามเท่า
เหล็กมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึง การก่อสร้างอาคาร การผลิตรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และแม้แต่เครื่องครัว หากไม่มีเหล็ก โลกของเราคงไม่แข็งแกร่งดังเช่นวันนี้ ไม่มีตึกสูงเสียดฟ้า ไม่มีสะพานเชื่อมเมือง ไม่มียานพาหนะพาเราไปสู่จุดหมาย และแม้แต่สิ่งของรอบตัวที่เราพึ่งพาในทุกๆ วันก็คงไม่มีอยู่ เหล็กจึงไม่ใช่เพียงแค่วัสดุ แต่คือรากฐานของความก้าวหน้าและชีวิตของเรา
น่าเสียดายที่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเหล็กเป็นปัญหาใหญ่พอ ๆ กับบทบาทของเหล็ก และเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน กว่า 10% ของการปล่อยก๊าซ CO2 ทั่วโลก หรือมากกว่า 2,500,000,000 ตันต่อปี มาจากการผลิตเหล็ก ซึ่งมากกว่าการปล่อยก๊าซ CO2 จากการบินและการเดินทางทางอากาศทั้งหมดถึงสามเท่า
การสร้างสมดุลระหว่างธรรมชาติและการพัฒนา:
การสร้างสมดุลระหว่างธรรมชาติและการพัฒนา:
เทคโนโลยีสีเขียวในอุตสาหกรรมเหล็ก
สามารถช่วยโลกของเราได้อย่างไร
เทคโนโลยีสีเขียวในอุตสาหกรรมเหล็ก
สามารถช่วยโลกของเราได้อย่างไร
เทคโนโลยีสีเขียวในอุตสาหกรรมเหล็ก
สามารถช่วยโลกของเราได้อย่างไร
ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา เราได้ละเลยธรรมชาติเพื่อพัฒนาโลกของเรา นักวิทยาศาสตร์เห็นพ้องกันว่าเราต้องเร่งสร้างสมดุลระหว่างธรรมชาติและการพัฒนา เพื่อรักษาชีวิตมนุษย์บนโลกใบนี้
อุตสาหกรรมเหล็กต้องมีส่วนร่วม ด้วยเทคโนโลยีการผลิตเหล็กใหม่ที่ใช้ไฮโดรเจนสีเขียวและพลังงานหมุนเวียนสำหรับการผลิตเหล็ก อุตสาหกรรมเหล็กที่สะอาดกว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปได้
ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา เราได้ละเลยธรรมชาติเพื่อพัฒนาโลกของเรา นักวิทยาศาสตร์เห็นพ้องกันว่าเราต้องเร่งสร้างสมดุลระหว่างธรรมชาติและการพัฒนา เพื่อรักษาชีวิตมนุษย์บนโลกใบนี้
อุตสาหกรรมเหล็กต้องมีส่วนร่วม ด้วยเทคโนโลยีการผลิตเหล็กใหม่ที่ใช้ไฮโดรเจนสีเขียวและพลังงานหมุนเวียนสำหรับการผลิตเหล็ก อุตสาหกรรมเหล็กที่สะอาดกว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปได้

การนำเหล็กถลุงโดยตรง (direct reduced iron : DRI) &
ไฮโดรเจนเขียว (Green Hydrogen)
การถลุงเหล็กโดยตรง (DRI : Direct reduced iron) & ไฮโดรเจนเขียว (Green Hydrogen)
